หลังทราบสาเหตุที่เป็นปัจจัยให้คอมพิวเตอร์ค้างกันไปแล้ว อันดับถัดไปมาดูวิธีแก้ปัญหาแบบเบื้องต้นที่คุณสามารถจัดการได้ด้วยตนเอง เพื่อให้หน้าจอคอมกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ดังนี้
(1) กดปิดโปรแกรมทั้งหมด เนื่องจากการเปิดโปรแกรมหลายอย่างพร้อมกัน เป็นผลให้หน่วยประมวลผลทำการประมวลผลข้อมูลไม่ทันเพราะเกินกว่าประสิทธิภาพของเครื่อง ดังนั้นควรกดปิดโปรแกรมที่เปิดอยู่เพื่อให้หน่วยประมวลผลทำงานน้อยลง แต่ถ้าลองขยับเมาส์แล้วไม่สามารถคลิกปิดโปรแกรมได้ แนะนำให้ใช้คีย์ลัดเพื่อปิดโปรแกรมที่เปิดอยู่ คือ Alt+F4
(2) บังคับปิดโปรแกรมด้วยเมนู Task Manager โดยการคลิกขวาที่แถบ Taskbar(แถบด้านล่างสุด) แล้วเลือก Task manager ในแท็บ Processes จากนั้นให้ค้นหาชื่อโปรแกรมที่ค้าง เมื่อคลิกโปรแกรมที่ต้องการปิดแล้วค่อยกดปุ่ม End Task แต่กรณีเมาส์ไม่ขยับหรือเปิดTask manager ไม่ขึ้น ให้เปลี่ยนมาใช้คีย์ลัดแทน นั่นคือกดปุ่ม Ctrl+Alt+Delete พร้อมกัน เพื่อเปิด Task manager จากนั้นค่อยใช้คีย์บอร์ดกดเลือก End Task
(3)เมื่อทดลองแก้ปัญหาหน้าจอคอมค้างตามคำแนะนำข้างต้นแล้วไม่สำเร็จ ให้กด Sign out เพื่อลงชื่อออกจากระบบ ด้วยการกดปุ่ม Start และเลือก Sign out หรือ กดคีย์ลัด windows+L
(4) นี่เป็นวิธีสุดท้ายที่ใช้เคลียร์ปัญหาคอมแฮงค์ หลังพยายามแก้ไขมาหลายวิธีแต่ไม่ได้ผล ก็คือการรีสตาร์ทเครื่องด้วยการกดปุ่มที่เป็นสวิทช์เปิดเครื่องค้างเอาไว้เป็นเวลา 3-5 วินาที จนกว่าคอมพิวเตอร์จะดับไป แล้วจึงปล่อยมือออกจากปุ่มสวิทช์ จากนั้นรอประมาณ 10-20 วินาทีถึงค่อยเปิดเครื่องใหม่ แต่การ Restart เครื่องใหม่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ควรทำบ่อย เพราะอาจส่งผลเสียกับจอคอมพิวเตอร์ในระยะยาว